“พิมลพัชร์ ธนุสุทธิยาภรณ์” เปิดเบื้องหลังการสร้างแบรนด์ Selfie ผู้บุกเบิกทันตกรรมอัจฉริยะ ก
เปิดเบื้องหลังการสร้างแบรนด์ Selfie ผู้บุกเบิกทันตกรรมอัจฉริยะ กว่าจะเป็นสตาร์ทอัพเทคโนโลยีจัดฟันแบบใส ด้วยระบบทางไกล 100% ครั้งแรกในไทย
หนึ่งข้อเท็จจริงที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยทราบว่า ความท้าทายอันยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการทันตกรรมในประเทศไทยนั้นคือ จำนวนของประชากรที่มีมากถึง 69 ล้านคน ซึ่งอาจเป็นจำนวนที่เกินกว่าความสามารถที่
ทันตแพทย์จะดูแลได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่ห่างไกลหรือต่างจังหวัด กลายมาเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ “พิมลพัชร์ ธนุสุทธิยาภรณ์” หรือ “คุณพอลลีน” ในวัย 33 ปี หนึ่งในผู้ก่อตั้งและดำรงตำแหน่ง Chief Marketing Officer (ประเทศไทยและสิงค์โปร์) ให้กับ “เซลฟี่” (Selfie) บริษัทสตาร์ทอัพระดับนานาชาติมุ่งมั่นที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงนี้ให้กับผู้บริโภคชาวไทยทุกคน โดยก่อนหน้านี้คุณพอลลีนได้มีประสบการณ์มากมายทางด้านการบริหารธุรกิจครอบครัวเเละได้สร้างสตาร์ทอัพในกลุ่ม Automotive Industry ที่ประสบความสำเร็จ จึงทำให้เธอมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่มากกว่าเดิม เเละมองหาสิ่งที่จะสามารถเติมเต็มความตั้งใจนี้ได้อย่างเเท้จริง
จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ สู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่
คุณพอลลีนผู้มีเป้าหมายที่จะสร้างสตาร์ทอัพในระดับนานาชาติได้มีโอกาสได้พบกับผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์โดยบังเอิญอย่างคุณวิลเลี่ยม พาร์ค (William Park) และคุณไดอาน่า ม็อก (Diana Mok) ในขณะที่กำลังศึกษาโปรแกรม MBA ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นจุดเริ่มต้นของผู้ร่วมก่อตั้งเเบรนด์ทั้ง 3 ท่านที่มีจุดมุ่งหมายร่วมอันยิ่งใหญ่ในการเปลี่ยนแปลงประสบการณ์การจัดฟันแบบใสให้เข้าถึงได้ง่ายและเป็นมิตรมากยิ่งขึ้น ด้วยการบุกเบิกนวัตกรรมแห่ง “ทันตกรรมอัจฉริยะ” หรือ “Smart Dentistry” เพื่อสร้างประสบการณ์การจัดฟันแบบใสที่บ้านภายใต้การดูแลของทันตแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย
คุณพอลลีนกล่าวเพิ่มเติมว่า “ในปัจจุบันผู้บริโภคไทยต้องพบเจอกับความยากที่จะเข้าถึงการจัดฟันใสได้อย่างเท่าเทียมจากหลากหลายข้อจำกัดและอุปสรรคทางสังคมมากมาย เช่น สถานที่รักษา การเดินทาง ค่าใช้จ่าย และข้อมูลข่าวสารที่ทำให้เกิดความสับสนเกี่ยวกับการรักษาต่างๆ ทำให้ Selfie เราพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเดิมๆ และทำลายกำแพงแห่งอุปสรรคทั้งหมดลง เพื่อผลลัพธ์แห่งประสบการณ์จัดฟันแบบใสตั้งแต่เริ่มต้นจนจบที่ดีที่สุดแก่ผู้บริโภคไทย”
ทลายทุกข้อจำกัด ให้ผู้บริโภคเข้าถึงบริการได้ทุกที่ทุกเวลา
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19ในประเทศไทยทำให้ผู้บริโภคที่ติดตามเซลฟี่ กว่า 93% (จากผลการทำแบบสอบถาม) มีความกังวลเกี่ยวกับการเข้ารับการรักษาที่คลินิกสูงขึ้น อีกทั้งคลินิกทันตกรรมหลายแห่งยังได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดด้านสาธารณสุข และค่าใช้จ่ายในการรักษาต่างๆ ยังเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากต้นทุนด้านความปลอดภัยของผู้เข้ารับการรักษา ทำให้ Selfie นำเทคโนโลยีทันตกรรมอัจฉริยะภายใต้ชื่อเทคโนโลยี SmartR มาใช้ ด้วยความตั้งใจที่จะทำให้ทุกคนสามารถจัดฟันได้จากทุกที่ทุกเวลาอย่างแท้จริง เช่น การพิมพ์ฟันได้ด้วยตัวเองจากที่บ้านโดยใช้ Selfie Impression Kit ที่ได้รับการออกเเบบเเละพัฒนาโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดฟัน เเละผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาทั้งในไทยและต่างประเทศ พร้อมทั้งเทคโนโลยีที่ทำให้ลูกค้าสามารถติดตามความคืบหน้าในการรักษาผ่าน Application ได้อย่างสะดวกสบายภายใต้การดูเเลจากทันตเเพทย์เเละผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงค่าบริการที่คุ้มค่าและจริงใจเพราะรวมทุกอย่างไว้ในราคาเดียว (53,490 บาท) โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตลอดการรักษา
“นวัตกรรมทันตกรรมทางไกลจาก Selfie จะเป็นกุญแจสำคัญของการทันตกรรมหลังจากวันนี้เป็นต้นไป เพราะนอกจากจะทำให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงการจัดฟันแบบใสได้อย่างทั่วถึงแล้ว ยังทำให้ทันตแพทย์ได้มอบการรักษาแก่ทุกคนได้อย่างไร้ข้อจำกัดผ่านเทคโนโลยีเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่ โดย Selfie เราพยายามอย่างสุดความสามารถที่จำเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเดิมๆ และทำลายกำแพงแห่งอุปสรรคทั้งหมดลง เพื่อผลลัพธ์แห่งประสบการณ์จัดฟันแบบใสตั้งแต่เริ่มต้นจนจบที่ดีที่สุดแก่ผู้บริโภคไทย” คุณพอลลีนกล่าว
ใส่ใจทุกขั้นตอนสร้างแบรนด์ คือหัวใจของการประสบการณ์ที่ดีที่สุด
นอกเหนือจากการทลายทุกอุปสรรคการเข้าถึงการจัดฟันของผู้บริโภคแล้ว Selfie ยังมุ่งเน้นที่จะออกแบบการบริการที่ดีที่สุดในทุกขั้นตอนของการรักษา ตั้งแต่ดีไซน์ของแต่ละผลิตภัณฑ์ที่มีความทันสมัยและมีความแฟชั่นเหมาะกับคนยุคใหม่, การวางแผนการรักษาด้วยภาพ 3 มิติ เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจการเคลื่อนตัวของฟันตั้งแต่ต้นจนจบการรักษา พร้อมเครื่องมือจัดฟันที่ส่งตรงถึงบ้านแบบไร้ค่าใช้จ่าย และทีมงานที่พร้อมตอบทุกคำถามและให้การช่วยเหลือลูกค้าตลอด 24 ชม. เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะมอบการรักษาด้วยคุณภาพที่สูงที่สุดแก่ลูกค้าทุกคนอย่างแท้จริง
คุณพอลลีนกล่าวปิดท้ายว่า “เรามองว่าการสร้างเเบรนด์มีความหมายมากกว่าเพียงเเค่การขายสินค้า เราตั้งใจที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับทุกคน และเราไม่นิยามการจัดฟันแบบใสว่าทำเพื่อความสวยงามเป็นอย่างเดียว เราจะไม่พูดจัดฟันแล้วสวยหรือจัดฟันแล้วมั่นใจ แต่เราให้ลูกค้าของเรากำหนดเป้าหมายและนิยามการทำสิ่งนี้ด้วยตัวเอง และเราในฐานะแบรนด์จะคอยสนับสนุนทุกคนให้เดินทางไปสู่เป้าหมายอย่างสุดความสามารถ นั่นคือนิยามของคำว่าแบรนด์ที่เป็นมากกว่าแบรนด์ของเซลฟี่ค่ะ”
ติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Selfie.th เทคโนโลยีจัดฟันใส
Instagram: @selfie.th LINE: @selfie.th และ www.selfie.co.th