TCeb เปิดตัวโครงการ Thailand 7 MICE Magnificent Themes 2019 ชู 115 ผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยว
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ ดำเนินการต่อเนื่องโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไมซ์ใหม่ในพื้นที่ไมซ์ซิตี้และเมืองรองใกล้เคียง หรือ Thailand 7 MICE Magnificent Themes 2019 (7 Themes) เฟสที่ 2 จากปีที่ผ่านมา นำเสนอเส้นทางไมซ์ใหม่ 115 ผลิตภัณฑ์ ครอบคลุม 14 จังหวัดทั่วภูมิภาค
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า การดำเนินงานโครงการ Thailand 7 MICE Magnificent Themes 2019 เฟสที่สองนี้ได้คัดเลือกเส้นทางสายไมซ์ใหม่ที่เต็มไปด้วยไอเดียสร้างสรรค์ สำหรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ มากถึง 115 ผลิตภัณฑ์ ครอบคลุม 14 จังหวัด ประกอบไปด้วย 5 เมืองไมซ์ซิตี้ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ตและขอนแก่น และเมืองรองเชื่อมโยง 9 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร อุดรธานี เชียงราย ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา สงขลา และนครศรีธรรมราช
“โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เมืองไมซ์ซิตี้และเมืองรองต่างๆ สามารถแข่งขันและสร้างรายได้ให้กับพื้นที่หรือชุมชน ตามนโยบายของรัฐบาลและกลยุทธ์ของทีเส็บ ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในเมืองไมซ์ซิตี้ (MICE City) และเมืองรองใกล้เคียงให้มีศักยภาพเพื่อยกระดับให้เมืองต่างๆ ของไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางแห่งการจัดประชุมสัมมนา การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การจัดประชุมองค์กรนานาชาติ และงานแสดงสินค้านานาชาติ (Preferred MICE Destination) และเป็นการเพิ่มทางเลือกแก่ผู้จัดงาน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางอุตสาหกรรมไมซ์ระดับประเทศ พัฒนาเส้นทางในพื้นที่เป้าหมายตาม 7 Themes เพิ่มโอกาสทางการตลาดในการนำเสนอสินค้าและบริการใหม่ๆ ให้แก่กลุ่มผู้ซื้อ ซึ่งเป็นนักเดินทางธุรกิจให้มีทางเลือกหลากหลายในการพิจารณามาจัดงานในประเทศไทยต่อไป”
สำหรับ 7 Themes ของโครงการนี้ประกอบด้วย 1. การผจญภัย (Exhilarating Adventures) 2. การนำเสนออาหารไทยในทุกการจัดงานที่หลากหลาย (Culinary Journeys) 3. กิจกรรม CSR และการประชุมเชิงอนุรักษ์ (CSR and Green Meetings) 4. ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม (Fascinating History and Culture) 5. การสร้างทีมเวิร์ค (Treasured Team Building) 6. การจัดงานและกิจกรรมหรูหรามีระดับ (Lavish Luxury) และ 7. กิจกรรมบรรยากาศชายหาด (Beach Bliss) โดยแต่ละธีมจะมีไอคอนที่สื่อถึงกิจกรรมต่างๆ อาทิ ไอคอนรูปคลื่นที่สื่อถึงธีมชายหาด เป็นต้น
ผลิตภัณฑ์ไมซ์ใหม่ที่น่าสนใจในปีนี้มีกิจกรรมไฮไลท์ในแต่ละธีม อาทิ ธีมการผจญภัย นำเสนอกิจกรรมกีฬาทางน้ำที่อมรา วอเตอร์ สปอร์ต พัทยา ที่จะเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่เกี่ยวกับการพายเรือแพดเดิลบอร์ด เรือใบ และกีฬาทางน้ำอื่นๆ ที่ทะเลพัทยา และยังสามารถทำกิจกรรม CSR ช่วยเก็บขยะกับทางชุมชน / ธีมการนำเสนออาหารไทยในทุกการจัดงานที่หลากหลาย โดยนำเสนอที่บ้านดินอาข่าโฮมสเตย์ บ้านหล่อโย จ.เชียงราย จะได้เรียนรู้การปรุงอาหารพื้นบ้านของชนเผ่าอาข่าอย่างใกล้ชิด / ธีมกิจกรรม CSR และการประชุมเชิงอนุรักษ์ นำเสนอโครงการปักจิตปักใจ จ.เชียงใหม่ ที่ร่วมเรียนรู้และให้โอกาสผู้พิการทางสายตา
ธีมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เชิญชวนให้ไปลองสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ ลองเขียนไหและเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นอีสานอันเก่าแก่ที่โฮมสเตย์เชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมบ้านเชียงและวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร บ้านเชียงก้าวหน้า จ.อุดรธานี / ธีมการสร้างทีมเวิร์ค แนะนำสวนเกษตรมีกิน จ.ขอนแก่น ที่นี่สามารถแบ่งกลุ่มแข่งขันกันทำอาหารพื้นบ้าน อาทิ แข่งขันตำส้มตำ / ธีมการจัดงานและกิจกรรมหรูหรามีระดับ แนะนำ Spectrum Rooftop Lounge and Bar กรุงเทพฯ สถานที่จัดงานแบบพิเศษบนดาดฟ้าที่สามารถชมวิวตึกระฟ้าของเมืองหลวงยามค่ำคืน และสุดท้ายธีมกิจกรรมบรรยากาศชายหาด แนะนำไฮไลท์ที่ห้ามพลาด ก็คือ เกาะเฮ จ.ภูเก็ต
ด้านผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ อย่างสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) หรือ TICA นางสาวกฤษณี ศรีษะทิน ประธานฝ่ายพัฒนาศักยภาพ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นวิทยากรเวิร์กชอปของโครงการ Thailand 7 MICE Magnificent Themes 2019 ในปีนี้ ซึ่งได้เดินทางไปร่วมทำกิจกรรมในทุกพื้นที่ทุกจังหวัดทั้งเมืองไมซ์ซิตี้และเมืองรอง มองว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่มีประโยชน์มากสำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมไมซ์ เพื่อให้แต่ละพื้นที่ได้พัฒนาตัวเอง ต่อยอดการบริการ ซึ่งโครงการนี้ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อชุมชนด้วย เพราะเป็นโครงการที่ช่วยให้ชุมชนได้นำเสนอในสิ่งที่เขามี รู้จักที่จะค้นหาเอกลักษณ์หรือจุดเด่นของตัวเอง แล้วนำสิ่งเหล่านั้นให้บอกเล่าให้คนอื่นได้รับรู้ว่าเขามีศักยภาพอะไรบ้าง และสำหรับนักเดินทางไมซ์ต่างประเทศนั้น ส่วนใหญ่ล้วนเคยเดินทางมาเมืองไทยแล้ว คนเหล่านี้จึงต้องการผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ วันนี้นักเดินทางไมซ์ไม่ได้เดินทางเพื่อมาประชุมสัมมนาอย่างเดียว แต่ยังต้องการประสบการณ์ใหม่ๆ ได้ทดลองทำจริงๆ ได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง
นายภูริวัจน์ ลิ้มถาวรรัตน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศ หรือ สทน. กล่าวว่า การท่องเที่ยวในปัจจุบันนี้ขึ้นอยู่กับภาพรวมเศรษฐกิจ แต่นักท่องเที่ยวคนไทยก็ยังสนใจท่องเที่ยวภายในประเทศ ทางสมาคมฯ จึงเน้นขับเคลื่อนเมืองทางภาคใต้โดยเฉพาะสงขลา พัทลุง และนครศรีธรรมราช เนื่องจากมีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ร่ำรวยไปด้วยวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่น่าสนใจ รวมถึงเมืองอื่นๆ ในทุกภูมิภาค และจากที่ร่วมเดินทางทดสอบเส้นทางสายไมซ์ใหม่ที่สงขลา และนครศรีธรรมราชของโครงการนี้ ก็ได้ความรู้ใหม่ๆ ได้คอนเนคชั่นใหม่ๆ บางพื้นที่ก็มีการพัฒนากิจกรรมใหม่ๆ ที่น่าสนใจมาก ทางสมาคมฯ ก็มีสมาชิกเป็นผู้ประกอบการประมาณ 90% มีลูกค้าที่เป็นบริษัทและคอร์ปอเรทอยู่ ส่วนใหญ่ทำเรื่องการประชุม (Meeting) และอินเซนทีฟ (Incentive) เป็นหลักอยู่แล้ว เนื่องจากเราทำเรื่องโดเมสติกให้คนไทยเที่ยวเมืองไทย คิดว่าผลิตภัณฑ์ไมซ์ใหม่ในปีนี้มีความน่าสนใจมากจริงๆ และจัดกลุ่มนักเดินทางไมซ์มาทำกิจกรรมตามที่ต่างๆ แน่นอน
ด้านผู้แทนของชุมชนหรือเจ้าของพื้นที่ผลิตภัณฑ์ไมซ์ใหม่ที่เข้าร่วมโครงการ Thailand 7 MICE Magnificent Themes 2019 ในปีนี้ นายประเสริฐ ฤทธิ์รักษา ประธานเครือข่ายท่องเที่ยวโดยชุมชน จังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวว่า กลุ่มตลาดไมซ์ที่เข้ามามีส่วนช่วยสร้างโอกาสให้กับกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนได้อย่างมาก เนื่องจากเป็นกลุ่มนักเดินทางคุณภาพมีความพร้อมในการเข้ามาช่วยกระจายรายได้ ภูเก็ตไม่ได้มีแค่ทะเลหรือสถานที่ท่องเที่ยวกระแสหลัก แต่ยังมีชุมชนเก่าแก่ดั้งเดิมที่ยังคงรักษารากเหง้าและวิถีชีวิตเอาไว้ให้สามารถเข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้อีกหลายจุด และยังทำให้ชาวบ้าน มีรายได้เสริมจากการเปิดบ้านต้อนรับนักเดินทางไมซ์อีกด้วย หรือมีการทำกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และการทำ CSR เช่น ไร่สับปะรดสามารถนำผลผลิตมาจำหน่ายเป็นเครื่องดื่มหรืออาหารว่างระหว่างการประชุมหรือทำกิจกรรม สวนยางพารานอกจากจะเปิดให้ผู้สนใจเข้าไปเยี่ยมชมกรรมวิธีการผลิตหรือแปรรูปยางพาราได้แล้ว พื้นที่ร่มรื่นของสวนยางยังสามารถปรับให้เป็นสถานที่รองรับการจัดงานได้ด้วย โดยผู้นำชุมชนจะต้องคำนึงถึง 3 เรื่องหลัก คือ สะดวก สะอาด ปลอดภัย เพื่อต้อนรับผู้มาเยือน สิ่งสำคัญคือชุมชนตระหนักในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ปฏิเสธพลาสติกอย่างสิ้นเชิงเน้นการใช้วัสดุและภาชนะรักษ์โลกในการรองรับตลาดกลุ่มไมซ์ รวมถึงการอนุรักษ์คืนชะนีสู่ป่า การทำธนาคารปูม้า การปลูกหญ้าทะเลซึ่งจะมีส่วนช่วยเพิ่มอาหารให้กับวงจรชีวิตของพะยูนอีกด้วย
“ผลการดำเนินงานของโครงการ Thailand 7 MICE Magnificent Themes เฟสที่ 1 ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง โดยมีชุมชนบ้านหัวฝาย อ.ชนบท จ.ขอนแก่น มีกลุ่มนักเดินทางไมซ์มาเยือนมากขึ้นทั้งในกลุ่มคนไทยและต่างชาติ ซึ่งมีขนาดกลุ่มตั้งแต่ 30-300 คน สร้างรายได้ให้กับชุมชนรับออเดอร์ผลิตหม่อนไหมและทอผ้าแบบเต็มกำลัง อีกทั้งยังได้รับความช่วยเหลือจากสถาบันต่างๆ และชุมชนยังมีความเข้าใจในกลุ่มนักเดินทางไมซ์มากยิ่งขึ้น ทางด้านชุมชนบ้านตะเคียนเตี้ย พัทยา มีผลตอบรับดีเกินคาด โดยมีอัตราการเติบโตมากถึง 200% ทั้งในกลุ่มนักเดินทางไมซ์ที่เป็นคนไทย ต่างชาติ และกลุ่มบริษัท จากธนาคารแห่งประเทศไทย กลุ่มคาราวานรถยนต์ ส่วนไร่วานิช จ.ภูเก็ต ได้กลายเป็นสถานที่จัดกิจกรรม Team Building ให้กับโรงแรมและรีสอร์ทต่างๆ ในภูเก็ต อาทิ The Charm Resort and Spa รวมทั้งยังมีกิจกรรมเชิงอาหารจากหน่วยงานราชการของภูเก็ต นำอาหารท้องถิ่นของเครือข่ายท่องเที่ยวชุมชนไปบริการผู้เข้าประชุมจำนวน 300 คน เป็นต้น ทั้งนี้ทีเส็บคาดว่าการดำเนินการต่อเนื่องโครงการ Thailand 7 MICE Magnificent Themes 2019 ทั้ง 115 ผลิตภัณฑ์ จะประสบความสำเร็จและเป็นที่ต้องการของนักเดินทางกลุ่มไมซ์เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน” นายจิรุตถ์ กล่าวทิ้งท้าย
QR Code : VTR แนะนำโครงการ และ
ไฟล์หนังสือ Thailand 7 MICE Magnificent Themes 2019